Brexit: การล่มสลายของความสามัคคีทางการเมืองและผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร

เหตุการณ์ Brexit ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร และส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อทวีปยุโรปทั้งมวล การตัดสินใจของประชาชนชาวอังกฤษในการออกจากสหภาพยุโรป (EU) นับได้ว่าเป็นการสะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมที่รุมเร้าประเทศมาหลายปี

Brexit เกิดขึ้นภายหลังการลงประชามติในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559 โดยประชาชนชาวอังกฤษลงคะแนนเสียง बहु數 สนับสนุนการออกจาก EU ด้วยคะแนน 51.9% ต่อ 48.1% เหตุผลหลักที่ทำให้ประชาชนชาวอังกฤษตัดสินใจลาจาก EU มีหลายประการ

• ความกังวลด้านเศรษฐกิจ:

กลุ่มผู้สนับสนุน Brexit อ้างว่าสหราชอาณาจักรต้องเสียเงินจำนวนมหาศาลในการเป็นสมาชิก EU และว่าข้อตกลงการค้าที่ EU กำหนดนั้นไม่เป็นธรรมต่อประเทศสมาชิกบางราย

• ความกังวลด้านอธิปไ compatriot:

กลุ่มผู้สนับสนุน Brexit เชื่อว่าการเป็นสมาชิก EU ทำให้สหราชอาณาจักรสูญเสียอำนาจในการควบคุมนโยบายของตนเอง เช่น นโยบายตรวจคนเข้าเมืองและนโยบายด้านกฎหมาย

• ความรู้สึกชาตินิยม:

สำหรับบางกลุ่ม Brexit ถือเป็นการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในชาติ และความปรารถนาที่จะฟื้นฟูอัตลักษณ์ของสหราชอาณาจักร

ผลกระทบของ Brexit

การออกจาก EU ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสหราชอาณาจักรและ EU

• เศรษฐกิจ:

Brexit สร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และส่งผลให้ปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลง การค้าระหว่างสหราชอาณาจักรกับ EU ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

• การเมือง:

Brexit ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองในสหราชอาณาจักร และนำไปสู่การลาออกของนายกรัฐมนตรีเทอเรซา เมย์

• สังคม:

Brexit แบ่งแยกประชาชนชาวอังกฤษ และทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุน Brexit และกลุ่มที่ต่อต้าน Brexit

ตัวอย่างการวิเคราะห์ผลกระทบของ Brexit: การค้าและอุตสาหกรรม

ภาคอุตสาหกรรม	ผลกระทบ Brexit
รถยนต์	ความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนนำเข้า/ส่งออกที่เพิ่มขึ้น
การเงิน	ความสูญเสียศูนย์กลางการเงินระดับโลก และความยากลำบากในการดำเนินธุรกรรมระหว่างประเทศ
เกษตรกรรม	ความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงานและข้อตกลงการค้าใหม่

Boris Johnson: มนุษย์ที่ทำให้ Brexit เป็นจริง

ในบทบาทของนายกรัฐมนตรี Boris Johnson กลายเป็นบุคคลสำคัญผู้ผลักดัน Brexit ให้เป็นจริง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายตรงข้าม

Johnson เป็นนักการเมืองที่มีความสามารถในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชน แต่เขาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความไร้ความรับผิดชอบและการละเลยกฎหมาย

ผลกระทบระยะยาวของ Brexit ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ การตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลต่อสหราชอาณาจักรและ EU อย่างไรในอีกหลายปีข้างหน้า? คำตอบคงต้องใช้เวลาเพื่อค้นหา