การปฏิวัติฝ่ายเดียวของจักรวรรดิออตโตมัน: สุดยอดแห่งความฉลาดและไหวพริบของ บาฮาאัดดิน คาร์มี่

 การปฏิวัติฝ่ายเดียวของจักรวรรดิออตโตมัน: สุดยอดแห่งความฉลาดและไหวพริบของ บาฮาאัดดิน คาร์มี่

ในยามที่จักรวรรดิออตโตมันกำลังสะดือแกร่ง กำลังเผชิญหน้ากับกระแสการปฏิวัติจากภายในและภายนอก บาฮาอัดดิน คาร์มี่ ผู้นำทหารหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและไหวพริบ ก็ได้ขึ้นมาเป็นตัวละครสำคัญที่改变โฉมหน้าของจักรวรรดิ

เกิดในครอบครัวชนชั้นสูงแห่งเมืองอิสตันบูล คาร์มี่ ได้รับการศึกษาเล่าเรียนอย่างดีเยี่ยม เขาเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ทหาร วิศวกรรม และตรรกศาสตร์ ทักษะเหล่านี้ทำให้เขาเป็นที่ต้องการของสุลต่านและก้าวขึ้นเป็นนายพล

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิออตโตมันกำลังเผชิญกับความย่ำแย่จากภายใน จากการปฏิวัติของกลุ่มขุนนางที่ไม่พอใจและความบั่นทอนของระบบการปกครอง รวมทั้งภัยคุกคามจากจักรวรรดิตะวันตก

ในปี 1826 คาร์มี่ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการแห่งจังหวัดอียิปต์ เขากระตุ้นเศรษฐกิจและทันสมัยด้วยการสร้างโรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน และเครือข่ายคมนาคม

คาร์มี่ เชื่อว่าจักรวรรดิออตโตมันจำเป็นต้องมีการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งเพื่อที่จะอยู่รอดในศักราชใหม่ เขาเริ่มต้นด้วยการสร้างกองทัพสมัยใหม่ ขับเคลื่อนด้วยไอน้ำ และใช้อาวุธทันสมัย

จากนั้น เขาก็ริเริ่มโครงการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และถนน ในปี 1831 คาร์มี่ ได้ประกาศอิสรภาพของอียิปต์จากจักรวรรดิออตโตมัน

ชื่อ ช่วงเวลา บทบาท
บาฮาอัดดิน คาร์มี่ 1787-1849 ผู้ว่าราชการอียิปต์, ปฏิรูปกองทัพอียิปต์
ประกาศอิสรภาพอียิปต์

คาร์มี่ เป็นผู้ริเริ่ม “การปฏิวัติฝ่ายเดียว” (Single Revolution) ที่เปลี่ยนแปลงอียิปต์อย่างสิ้นเชิง

  • การทหาร: คาร์มี่ สร้างกองทัพสมัยใหม่ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างดี และติดอาวุธด้วยปืนใหญ่และปืนไรเฟิล
  • เศรษฐกิจ: เขาสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม และสร้างระบบคลังสินค้าที่ทันสมัย

การปฏิวัติของคาร์มี่ มีความสำเร็จอย่างมาก ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี อียิปต์กลายเป็นประเทศที่ทันสมัยที่สุดในตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของคาร์มี่ ไม่ได้มาโดยง่าย เขาต้องเผชิญกับการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษนิยม และความขัดแย้งระหว่างอียิปต์และจักรวรรดิออตโตมัน

คาร์มี่ ถึงแก่กรรมในปี 1849

แม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่บาฮาอัดดิน คาร์มี่ ยังคงเป็นที่เคารพนับถือของชาวอียิปต์ และได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งอียิปต์สมัยใหม่”